แลงโก้ 123 ปูนเทปรับระดับ สำหรับความหนา 7 – 20 มม. 25 กก.

LANKO 123 SELF THICK ปูนเทปรับระดับด้วยตัวเอง สำหรับงานพื้นภายในและภายนอกที่ต้องการปรับระดับที่ความหนาระหว่าง 7 – 20 มม. โดยไม่ปูวัสดุ ทับหน้า หรือ ปูทับด้วยวัสดุปูพื้นทั่วไป

แลงโก้ 123 ใช้งานง่ายให้ผิวที่เรียบได้ระดับ ประหยัดเวลาในการทำงาน

คุณลักษณะ

• ใช้เทปรับระดับพื้นที่ไม่ได้ระดับให้เรียบเสมอกัน
• ใช้ได้ทั้ง ภายในและภายนอก เช่น ที่จอดรถ พื้นโรงงาน ระเบียง
• สามารถปล่อยเปลือย ปูทับด้วยพรม ปาร์เก้ กระเบื้องยาง หรือทาสี
• มีการยึดเกาะกับผิวเดิมได้เป็นอย่างดี
• ประหยัดเวลา และ ใช้งนได้ดี

ลักษณะการใช้งาน

• พื้นภายในและภายนอก ที่ต้องการความเรียบ เช่น ที่จอดรถ ห้างสรรพสินค้า โกดังหรือคลังสินค้า พื้นโรงงานอุตสาหกรรม ระเบียง ทางเดิน พื้นที่ต้องการปรับระดับก่อนปูด้วยวัสดุปูพื้นทั่วไป เช่น พรม กระเบื้องยาง กระเบื้องเซรามิก ปาร์เก้ สีทาพื้น

ข้อแนะนำในการทำงาน

การเตรียมพื้นผิว

• พื้นคอนกรีตต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 28 วัน
• พื้นผิวต้องแข็งแรง สะอาดปราศจากฝุ่น คราบน้ำมันเศษสิ่งสกปรก น้ำยาบ่ม สี เศษปูนฉาบ ยิปซั่ม หรือรอยแตกร้าว

การทารองพื้น

• พื้นผิวปกติ : พรมน้ำบริเวณพื้นผิวให้ชื้นก่อนทำงานถ้าเป็นไปได้ให้ขังน้ำทิ้งไว้ 2 – 3 ชั่วโมง หรือทิ้งข้ามคืนเพือให้พื้นผิวดูดซึมน้ำจนอิ่มตัว โดยให้เอาน้ำออกก่อนทำงาน โดยไม่มีน้ำนองอยู่บนพื้นผิว
• พื้นผิวเรียบแน่น หรือพื้นผิวที่มีรูพรุนมาก : ให้ทา LANKO 162 FLOWPRIME ลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ ทิ้งพอแห้งหมาด ก่อนเทด้วย แลงโก้ 123 ห้ามทิ้ง LANKO 162 FLOWPRIME ไว้จนแห้งสนิท เพราะจะไม่สามารถประสานเป็นเนื้อเดียวกันได้ทำให้เกิดปัญหาหลุดร่อน
• ควรทารองพื้นหรือบ่มพื้นผิวก่อนทำงาน เพื่อเป็นการเพิ่มการยึดเกาะ และลดปัญหาฟองอากาศบนผิวหน้าของ แลงโก้ 123 ที่เกิดจากการลอยตัวของอากาศ ที่กักอยู่ในพื้นผิว

การเตรียมวัสดุ

• ผสม แลงโก้ 123 จำนวน 1 ถุง 25 กก. กับน้ำสะอาด 3.5 – 4 ลิตร (น้ำ 14 – 16 % ของน้ำหนักปูน) ด้วยเครื่องผสม (เครื่องผสมที่เหมาะสมคือเครื่องที่มีรอบโดยประมาณ 500 รอบต่อนาที) การผสมให้เทน้ำใส่ภาชนะที่เตรียมไว้หลังจากนั้นจึงเทปูนลงในน้ำ โดยในขณะเทให้เริ่มผสมไปด้วยไม่ควรใช้วิธี เทน้ำลงในปูนผสมจนได้ปูนที่เป็นเนื้อเดียวกัน โดยทั่วไปจะใช้เวลาผสมประมาณ 3 นาที
• พักส่วนผสมไว้สักครู เพื่อลดฟองอากาศ ที่เกิดจากการผสม
• หลังจากผสมเสร็จแล้วห้ามเติมน้ำเพิ่ม

การทำงาน

• เท แลงโก้ 123 ที่ผสมแล้วลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้
• หลังจากนั้นให้ปาดด้วยไม้สามเหลื่ยมให้ได้ระดับการทำระดับ อาจใช้การจับปุ่ม เซี้ยม ร่อง PVC สำเร็จรูป หรือ ไม้คิว วางให้ได้ระดับตามต้องการ
• หลังจากปาดได้ระดับตามต้องการแล้ว ไม่ควรรบกวนผิวหน้าปูนอีก ปูนจะให้ผิวที่เรียบโดยไม่ต้องขัดมัน
• สามารถใช้ลูกกลิ้งหนามเพื่อลดฟองอากาศที่ฝังอยู่ในเนื้อปูน โดยให้กลิ้งหลังจากปาดได้ระดับแล้ว

ร่องกันแตก

• พื้นที่มีบริเวณกว้างควรตัดร่องกันแตก เพื่อหลีกเลี่ยงรอยแตกร้าว ที่อาจเกิดกระจายอยู่ทั่วไป โดยแนวร่องกันแตกควรอยู่ตรงกันแนวเสา แต่ถ้าระยะห่างของเสามาก อาจต้องตัดระหว่างช่วงเสาเด้วย รวมถึงรอยต่อที่เกิดจากการเทแต่ละครั้งก็ควรตัดเป็นแนวร่องกันแตกด้วยเช่นเดียวกัน
• ควรตัดร่องกันแตกโดยการใช้เครื่องตัด พยายามให้ได้พื้นที่เป็นรูปสีเหลี่ยมจตุรัส โดยมีความยาวมากที่สุด 8 เมตร หรือตัดร่องให้ตรงกับแนวเสา
• ร่องกันแตกต้องตัดให้ตรงกันแนวรอยต่อของโครงสร้างหรือร่องกันแตกของพื้นเดิม *เป็นคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น รูปแบบตลอดจนขนาดของร่องกันแตกแล้วแต่ผูณ้ออกแบบ เป็นผู้กำหนดรายละเอียด

ข้อควรระวัง

• อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน 5 – 35 องศาเซลเซียส
• ไม่ควรทำงานกลางแดด หรือทำงานบนพื้นผิวที่ร้อน
• ทันทีที่ปูนแห้งหมาด (สีเริ่มด้าน กดแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือ) ให้บ่มผิวด้วยน้ำยาบ่ม เช่น LANKO 361 LANCURE

อัตราการใช้ : 1.8 กก./ตร.ม./หนา 1 มม.

ขนาดบรรจุ : 25 กก.

การเก็บรักษา

• มีอายุการใช้งาน 1 ปีหลังจากวันที่ผลิตหากเก็บไว้ในถุงที่ยังไม่เปิดออกและเก็บไว้ในบริเวณที่แห้ง

คำถามที่พบบ่อยๆ สินค้า LANKO 123

• ปูนแลงโก้ 123 สีอะไร ตอบ เป็นผงสีเทา
• ปูนแลงโก้ 123 ผสมเสร็จต้องใช้ภายในกี่นาที ตอบ ประมาณ 20 นาที
• ปูนแลงโก้ 123 ระยะเวลารอก่อนตกแต่ง ตอบ ที่ความหนา 7 มม. สีทาพื้นรอ 7 วันขึ้นไป ในกรณีอื่นๆ 3 วันขึ้นไป

ราคาโรงงาน ติดต่อสั่งซื้อได้ที่ 061-730-6666 คุณเน

Line : asiagreen

PAREXGROUP โรงงานผลิต ก่อตั้งขึ้น ในปี 1979 โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ผสมเสร็จ ซึ่งบริหารโดยลาฟาร์จกรุ๊ป ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ ปี 2001 PAREXGROUP ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งอของเครือ Materis ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ก่อสร้างด้วยเป้าหมายที่มุ้งเน้นขยายกิจการให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค เรามุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้วยการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และสังคมที่อยู่ร่วมกัน ในปัจจุบันมีฐานการผลิตอันทันสมัยใน 21 ประเทศทั่วโลก โรงงานผลิตจำนวน 61 แห่ง มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาถึง 9 แห่ง โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส

Parex Group เป็นผู้นำและมีความเชียวชาญในผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ก่อสร้างคุณสมบัติพิเศษที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง และเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพสินค้าระดับสากล Parex Group ไม่ได้จำกัดแค่ผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างเท่านั้นแต่ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานง่ายสำหรับการซ่อมแซมและตกแต่งที่อยู่อาศัย อาคาร บ้านเรือน ด้วยตัวคุณเอง (D.I.Y) ทั้งนี้สามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักเป็น 3 กลุ่มได้แก่

ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์เพื่อการตกแต่งและปกป้องผนังอาคาร PROTECTION AND DECORATION

Parex Group มีผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ที่หลากหลายรองรับนวัตกรรมก่อสร้างสมัยใหม่โดยเฉพาะงานตกแต่งและปกป้องผนังอาคารเพื่อให้เหมาะกันสไตล์การตกแต่งต่างๆ และแก้ไขข้อบกพร่องของพื้นผิวผนัง ซึ่งปูนทรายทั่วไปไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ นอกจากนี้สินค้าบางรุ่นในกลุ่มสกิมโค้ทยังสามารถใช้เป็นวัสดุตกแต่งผนังได้อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ปูนกาวติดกระเบื้อง ADHESIVES AND GROUTS

Parex Group พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้รองรับกับระบบงานปูกระเบื้อง ได้แก่ งานเตรียมพื้นผิวกาวซีเมนต์และยาแนวให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ใช้งาน ได้แก่ ทางเดิน สระว่ายน้ำ ห้องน้ำ และประเภทของกระเบื้อง เช่น เซรามิค แกรนิคโต้ หินอ่อน ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของเรา จึงมีให้เลือกหลากหลายรุ่นเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ผลิตภัณฑ์ซ่อมแซมโครงสร้างและงานป้องกันการรั่วซึม REPAIR AND MAINTENANCE

Parex Group พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ปูนคุณสมบัติพิเศษผสมสำเร็จให้เหมาะสำหรับงานก่อสร้างประเภทต่างๆ โดยเฉพาะปูนนอนชริ้งค์คุณภาพสูงสำหรับโครงสร้างคอนกรีต ผลิตภัณฑ์ปูนสำเร็จรูปสำหรับงานซ่อมโครงสร้างคอนกรีต กาวอีพ๊อกซี่ และผลิตภัณฑ์ป้องกันการ รั่วซึมประสิทธิภาพสูง

Parex Group มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่กับการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน สิ่งแวดล้อม และชุมชน เพื่อการเติบโตและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างยังยืน

Healthier Green Innovation

คำนึงถึงสุขภาพของผู้ใช้งาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ เดพโก้ ได้มีการนำเทคโนโลยี “ไร้ฝุ่น” ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท และเป็นรายแรกของโลก เทคโนโลยีไร้ฝุ่น ช่วยลดปริมาณฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศในมากกว่า 80% ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานรวมทั้งลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ที่ฟุ้งกระจาย ช่วยให้ประหยัดมากขึ้น 15 – 25 %